‘แผลคีลอยด์’ คืออะไร เป็นแล้วรักษาหายไหม ตอบชัดที่นี่ !

23 ก.ค. 2567 | เขียนโดย โรงพยาบาลสินแพทย์ รามอินทรา

คีลอยด์ คือ แผลเป็นนูนที่มักทำให้เกิดอาการคัน แม้ไม่อันตรายแต่ก็มีผลต่อความสวยงาม หากใครกำลังสงสัยว่า แผลคีลอยด์รักษาให้หายได้ไหม บทความนี้มีคำตอบ



เชื่อว่าเมื่อพูดถึง “แผลเป็น” ร้อยทั้งร้อยย่อมไม่มีใครอยากเป็น โดยเฉพาะแผลเป็นคีลอยด์ แต่ถึงแม้แผลประเภทนี้จะไม่เป็นอันตรายหรือกระทบต่อการใช้ชีวิต แต่ก็จะทิ้งร่องรอยไม่น่ามองไว้บนผิวหนังของเรา ทั้งยังกำจัดได้ยาก ยิ่งหากเป็นบริเวณผิวนอกร่มผ้าอย่างแขน ขา หัวไหล่ หรือหูด้วยแล้ว ก็อาจทำให้หลายคนรู้สึกสูญเสียความมั่นใจได้

เพื่อไขข้อสงสัยเกี่ยวกับแผลเป็นชนิดนี้ บทความนี้จะพาไปทำความรู้จักว่า แผลคีลอยด์คืออะไร และหากเป็นแล้วควรรับมือและมีวิธีการรักษาอย่างไรบ้าง

 

คีลอยด์คืออะไร ?

คีลอยด์ คือ แผลเป็นชนิดหนึ่งที่มีลักษณะนูนขึ้นมาจากผิวหนัง มักมีขนาดใหญ่กว่ารอยแผลเดิม ไม่เป็นอันตรายต่อร่างกาย แต่อาจก่อให้เกิดความระคายเคือง อาการคัน และรู้สึกเจ็บแปลบ ๆ เมื่อสัมผัสโดนได้ โดยทั่วไปแล้ว แผลคีลอยด์มีสาเหตุมาจากความผิดปกติในกระบวนการรักษาแผลของร่างกาย ที่กระตุ้นให้เนื้อเยื่อบริเวณแผลเกิดการสร้างเนื้อเยื่อเกินขึ้นมา จนทำให้แผลเป็นที่เกิดขึ้นนูนจากผิวหนัง

 

คีลอยด์มีอาการอย่างไร แบบไหนถึงเรียกว่าแผลคีลอยด์ ?

  • เป็นก้อนนูนขึ้นมาจากผิวหนัง มีลักษณะเป็นไตหรือวงกลม ขนาดตั้งแต่เล็กราวเม็ดถั่วลิสง จนถึงใหญ่เท่าก้อนมะนาว ซึ่งอาจค่อย ๆ ขยายใหญ่ขึ้นเรื่อย ๆ หากไม่ได้รับการรักษา
  • แผลคีลอยด์จะมีลักษณะเป็นมัน เงา ไม่มีขนขึ้น เนื่องจากเป็นเนื้อเยื่อใหม่ที่สร้างขึ้นมาจากกระบวนการรักษาแผลที่ผิดปกติ
  • ในระยะแรก แผลจะมีสีชมพูหรือสีแดงคล้ำ แต่เมื่อเวลาผ่านไป และไม่ได้รับการรักษา สีของแผลจะค่อย ๆ เปลี่ยนเป็นสีน้ำตาลหรือสีซีดจางลง
  • บริเวณที่พบแผลคีลอยด์บ่อยที่สุด ได้แก่ หัวไหล่ บริเวณหน้าอก หลังส่วนบน และใบหู เนื่องจากเป็นบริเวณที่เสี่ยงต่อการบาดเจ็บหรือถูกกระแทกบ่อยครั้ง

ทั้งนี้ หากพบก้อนนูนสีชมพูหรือแดง ที่ผิวมันเงา ไม่มีขน และมีขนาดค่อย ๆ ใหญ่ขึ้นเรื่อย ๆ ก็เป็นอาการที่ชี้ชัดว่าอาจเป็นแผลคีลอยด์ แนะนำว่าควรรีบปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญโดยเร็วเพื่อการวินิจฉัยและรักษาที่ถูกต้อง

 

คีลอยด์รักษาให้หายได้ไหม ?

แผลคีลอยด์รักษาให้หายได้ แต่อาจไม่สนิท เพราะเมื่อคีลอยด์เกิดขึ้นแล้วก็มีโอกาสเกิดขึ้นซ้ำได้อีกทุกเมื่อ สำหรับบางราย เมื่อรักษาอย่างถูกต้องก็จะมีขนาดที่เล็กลง หรือสีจางลง แต่ร่องรอยของแผลยังอยู่ ทว่าบางรายก็หายสนิทได้โดยไม่กลับมาขึ้นอีก ขึ้นอยู่กับลักษณะของแผล ผิว และทางเลือกในการรักษาของแต่ละคน แต่ไม่ต้องกังวลมากไป เพราะแผลคีลอยด์มีวิธีรักษาให้ดีขึ้นได้ ดังนี้

 

  • การทายารักษาแผลเป็น เช่น ยาลดรอยแผลเป็น ยากลุ่มซิลิโคนเจล เป็นต้น ซึ่งจะช่วยให้แผลมีความชุ่มชื้นและสร้างเซลล์ผิวใหม่ วิธีนี้เหมาะสำหรับแผลคีลอยด์ขนาดเล็ก และเพิ่งเกิดขึ้นได้ไม่นาน หากเป็นแผลที่ทิ้งไว้หลายปีแล้วอาจต้องพึ่งพาการรักษาวิธีอื่น
  • การใช้แผ่นซิลิโคน เป็นวิธีการรักษาคีลอยด์ด้วยการใช้แผ่นซิลิโคนพิเศษปิดบริเวณแผลเป็น เพื่อกดทับและควบคุมการสร้างเนื้อเยื่อส่วนเกิน ซึ่งต้องใช้เวลาหลายสัปดาห์หรือหลายเดือน
  • การฉีดยาสเตียรอยด์ เป็นวิธีที่ได้รับความนิยมมากที่สุด โดยแพทย์จะฉีดยาสเตียรอยด์เข้าไปในแผลคีลอยด์ เพื่อช่วยลดการอักเสบและยับยั้งการสร้างเนื้อเยื่อส่วนเกิน ช่วยให้แผลยุบลง และเรียบไปกับผิวได้
  • การผ่าตัดร่วมกับฉีดยา เป็นวิธีการรักษาคีลอยด์ขนาดใหญ่ที่เป็นมานานหลายปี โดยแพทย์จะผ่าตัดเอาเนื้อเยื่อคีลอยด์ส่วนเกินออก จากนั้นจะฉีดยาเพื่อป้องกันการกลับมาเป็นซ้ำ
  • การเลเซอร์ อีกวิธีการรักษาที่ได้รับความนิยม เนื่องจากปลอดภัย ไม่ทำให้เกิดแผลเป็นมาก โดยแพทย์จะใช้เลเซอร์ที่มีคลื่นพลังงานสูงมากำจัดเนื้อเยื่อคีลอยด์ส่วนเกินออกไป และอาจต้องทำซ้ำหลายครั้งตามขนาดของแผล

 

การรักษาคีลอยด์ด้วยการฉีดยาสเตียรอยด์

 

วิธีดูแลแผล ลดความเสี่ยงการเป็นคีลอยด์

  • ทำแผลให้ถูกต้องตั้งแต่ระยะเริ่มต้น หลีกเลี่ยงการจับ เกา หรือแกะสะเก็ดแผล เพราะจะทำให้เสี่ยงต่อการเกิดแผลคีลอยด์มากขึ้น
  • ดูแลแผลให้ไม่เกิดการอักเสบ เพราะการอักเสบจะกระตุ้นให้ร่างกายสร้างเนื้อเยื่อเกินจนเกิดเป็นแผลคีลอยด์ได้
  • หลังแผลแห้ง สามารถใช้ยาที่มีส่วนประกอบของซิลิโคนเจล เพื่อส่งเสริมกระบวนการฟื้นฟูผิวหนังได้
  • อีกหนึ่งคำถามที่หลายคนสงสัย ว่าเป็นแผลคีลอยด์ห้ามกินอะไรเป็นพิเศษหรือไม่ ความจริงแล้วไม่ได้ถึงขั้นเป็นข้อห้าม แต่ควรหลีกเลี่ยงอาหารประเภทน้ำตาล แอลกอฮอล์ คาเฟอีน และอาหารที่มีไนเตรดสูง เช่น เนื้อแดง ไส้กรอก ฯลฯ เพราะจะทำให้แผลหายช้า

มีปัญหาแผลเป็นคีลอยด์ และต้องการรับคำปรึกษาจากแพทย์ชำนาญการด้านผิวหนัง สามารถมาปรึกษาได้ที่โรงพยาบาลสินแพทย์ โรงพยาบาลแถวรามอินทรา ที่มีแพทย์เฉพาะทางด้านผิวหนังและศัลยกรรมเลเซอร์ที่พร้อมดูแลด้วยความเชี่ยวชาญภายใต้มาตรฐานสากล

 

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมและนัดหมายแพทย์ โทร. 02-793-5000

SHARE
ข่าวประชาสัมพันธ์อื่นๆ