รู้ทันอาการแพ้ท้อง พร้อมวิธีรับมืออย่างถูกต้อง

15 ก.ค. 2567 | เขียนโดย โรงพยาบาลสินแพทย์ กาญจนบุรี

ชวนว่าที่คุณแม่มาเช็กอาการแพ้ท้อง เช่น ประจำเดือนขาด เบื่ออาหาร อารมณ์แปรปรวน เพื่อรับมือกับอาการอย่างถูกต้อง พร้อมเตรียมตัวสู่การตั้งครรภ์อย่างแข็งแรง



“อาการแพ้ท้อง” คือสัญญาณที่บ่งบอกว่าเรากำลังเริ่มต้นตั้งครรภ์ ซึ่งบางครั้งอาการเหล่านี้อาจทำให้ว่าที่คุณแม่รู้สึกไม่สบายตัว จนไม่สามารถใช้ชีวิตได้อย่างปกติ บทความนี้ขอชวนมารู้จักกับอาการแพ้ท้องพร้อมวิธีรับมือที่เหมาะสม เพื่อเตรียมตัวสู่การเป็นคุณแม่มือใหม่ได้อย่างอุ่นใจยิ่งขึ้น

 

เช็กลิสต์อาการแพ้ท้องที่คุณแม่มือใหม่ควรรู้

อาการแพ้ท้อง คืออาการที่เกิดขึ้นในช่วงแรกเริ่มของการตั้งครรภ์ ซึ่งความหนักเบาของอาการจะแตกต่างกันไปในแต่ละบุคคล มาดูกันว่า สัญญาณของการตั้งครรภ์นั้นมีอะไรบ้าง

 

☑ ประจำเดือนขาด

☑ มีตกขาวเพิ่มมากขึ้นกว่าปกติ

☑ เป็นสิว

☑ เหนื่อยล้า อ่อนเพลียง่าย

☑ คลื่นไส้ อาเจียน แสบร้อนกลางอก

☑ วิงเวียนศีรษะ

☑ เบื่ออาหาร

☑ อารมณ์แปรปรวน

☑ ปัสสาวะบ่อย

☑ ท้องผูก

☑ คัดตึงเต้านม หัวนมมีการเปลี่ยนแปลง

☑ อุณหภูมิร่างกายสูงขึ้น

☑ ท้องอืด

☑ ไวต่อกลิ่นต่าง ๆ

 

เมื่อมีอาการแพ้ท้อง ต้องทำอย่างไร ?

เมื่อไหร่ก็ตามที่รู้สึกถึงอาการดังที่กล่าวมา สิ่งแรกที่คุณแม่มือใหม่ต้องทำ คือเข้ารับการตรวจร่างกายและฝากครรภ์โดยทันที เพื่อให้แพทย์ได้ทำการตรวจเช็กสุขภาพและความสมบูรณ์ของครรภ์ รวมถึงทำการนับอายุครรภ์ให้แน่นอน จากนั้นแพทย์จะให้คำแนะนำในการดูแลร่างกาย และการปฏิบัติตัวที่เหมาะสำหรับอายุครรภ์แต่ละช่วง เพื่อให้มั่นใจว่า ลูกน้อยในครรภ์จะเจริญเติบโตได้อย่างแข็งแรงสมบูรณ์มากที่สุด พร้อมทั้งช่วยให้คุณแม่สามารถดูแลสุขภาพได้อย่างเหมาะสม

 

แพ้ท้องกี่เดือนถึงจะหาย

สำหรับว่าที่คุณแม่ที่สงสัยว่า แพ้ท้องกี่เดือนถึงจะหาย คำตอบก็คือ โดยทั่วไปแล้วอาการแพ้ท้องจะเกิดขึ้นในช่วงไตรมาสแรก หรือ 3 เดือนแรกของการตั้งครรภ์ จากนั้นจะรุนแรงขึ้นในช่วง 4-6 เดือน และทุเลาลงในช่วงไตรมาสสุดท้ายของการตั้งครรภ์ ซึ่งในบางรายอาจมีอาการเพียงเล็กน้อย แต่บางรายก็อาจแพ้ท้องหนักมากจนกระทบกับการใช้ชีวิต ดังนั้นคุณแม่จึงต้องหาวิธีแก้ที่เหมาะสม เพื่อช่วยบรรเทาความรุนแรงของอาการ พร้อมช่วยรักษาสภาพจิตใจของคุณแม่ให้อยู่ในระดับที่ดีที่สุด

 

คุณแม่มือใหม่ที่แพ้ท้องหนักมาก มีวิธีแก้อย่างไร ?

  • พักผ่อนให้เพียงพอ

ในช่วงที่ตั้งครรภ์ คุณแม่จะรู้สึกอ่อนเพลียง่ายเป็นพิเศษ ซึ่งอาจทำให้อารมณ์เศร้าหมองตามไปด้วย ว่าที่คุณแม่จึงต้องหาเวลาพักผ่อนให้เพียงพอ ทั้งการนอนหลับในช่วงกลางวัน และการเข้านอนแต่หัวค่ำ เพื่อให้ระบบต่าง ๆ ในร่างกายทำงานได้ดี และช่วยให้รู้สึกเวียนศีรษะน้อยลง

 

  • ดื่มน้ำให้มากขึ้น

การดื่มน้ำในปริมาณที่เพียงพอ จะช่วยเพิ่มความสดชื่นให้ร่างกาย พร้อมบรรเทาอาการวิงเวียนศีรษะ ซึ่งนอกจากน้ำเปล่าสะอาดแล้ว อาจเลือกดื่มเป็นน้ำผลไม้คั้นสด เพื่อให้ทารกในครรภ์ได้รับสารอาหารที่มีประโยชน์อย่างเต็มที่

 

  • หาวิธีผ่อนคลายความเครียด

สิ่งหนึ่งที่คุณแม่มือใหม่ไม่อาจหลีกเลี่ยงได้ ก็คือความกังวลและความเครียด อันเกิดมาจากฮอร์โมนที่แปรปรวน รวมถึงความกังวลในเรื่องของรูปร่างที่เปลี่ยนไป และความเป็นห่วงถึงสุขภาพของทารกน้อยในครรภ์ ดังนั้นคุณแม่จึงต้องหาวิธีผ่อนคลายความเครียด เพื่อไม่ให้อารมณ์นี้ส่งผลกระทบไปถึงทารก ด้วยการฝึกสมาธิในรูปแบบต่าง ๆ อย่างการนั่งสมาธิ ฟังเพลง วาดภาพ หรือจัดดอกไม้ เพื่อให้รู้สึกผ่อนคลายขึ้น

 

  • เลือกรับประทานอาหารและวิตามินเสริมตามคำแนะนำของแพทย์

โดยปกติแล้วแพทย์จะมีการจ่ายวิตามินที่ช่วยในการบำรุงครรภ์และบำรุงสุขภาพของว่าที่คุณแม่ หลังจากที่เข้ารับการฝากครรภ์ แต่หากต้องการรับประทานวิตามินอื่น ๆ เพิ่มเติม เพื่อช่วยบรรเทาอาการแพ้ท้อง หรือต้องการขอคำแนะนำในการรับประทานอาหารที่เหมาะกับทารกน้อย ก็สามารถปรึกษาแพทย์โดยตรงได้เช่นกัน

 

  • เตรียมอาหารว่างไว้ใกล้ตัวเสมอ 

อีกหนึ่งวิธีแก้แพ้ท้องที่เป็นประโยชน์อย่างยิ่ง ก็คือการเตรียมอาหารว่างไว้ใกล้ ๆ ตัวตลอดเวลา เช่น ขนมปังกรอบชิ้นเล็ก ๆ หรือธัญพืช เพื่อบรรเทาอาการคลื่นไส้ที่มักเกิดขึ้นหลังตื่นนอนและระหว่างวัน

 

  • ออกกำลังกายอย่างเหมาะสม

การออกกำลังกาย เป็นวิธีแก้แพ้ท้องที่ไม่เพียงแต่จะช่วยให้คุณแม่รู้สึกสดชื่น แต่ยังช่วยบำรุงร่างกาย และส่งผลดีต่อทารกน้อยในครรภ์อีกด้วย โดยควรออกกำลังกายภายใต้คำแนะนำของแพทย์อย่างใกล้ชิด เช่น การเดินในน้ำ หรือ การเล่นโยคะแบบเบา ๆ

 

ผู้หญิงตั้งครรภ์กำลังเตรียมตัวออกกำลังกาย

หากมีอาการแพ้ท้องดังนี้ ควรรีบพบแพทย์โดยด่วน

  • แพ้ท้องหนักจนกินอาหารไม่ได้ ทำให้น้ำหนักลดลงอย่างรวดเร็ว
  • มีเลือดออกผิดปกติ
  • หน้ามืดคล้ายจะเป็นลมบ่อย
  • ใจสั่นผิดปกติ
  • ปัสสาวะน้อยกว่าปกติ

ปรึกษาสูตินรีแพทย์เพื่อรับคำแนะนำในการเตรียมตัวสู่การเป็นคุณแม่อย่างมั่นใจ ที่ โรงพยาบาลสินแพทย์ กาญจนบุรี คลินิกฝากครรภ์กาญจนบุรีที่พร้อมดูแลคุณแม่มือใหม่อย่างใกล้ชิด

 

นัดหมายออนไลน์หรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ 034-912-888

 

SHARE
ข่าวประชาสัมพันธ์อื่นๆ